ปรอทปัญญา หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทาราม อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ แห่ง บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ถือเป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนา ของจังหวัด มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วสารทิศนอกจากท่านจะเป็นพระปฎิบัติ (สุปฎิปันโน) แล้วทางวิชาการศาสตร์โบราณ ท่านก็เชี่ยวชาญ เช่นวิชาแพทย์แผนโบราณ ถึงขนาดมีนักศึกษาปริญญาโท จากโคราชมาทำวิจัย สมุนไพรแก้เอดส์ จนเป็นที่สนใจในวงวิชาการ
ท่านยังสำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ตำราที่ท่านทำนี้เรียนมาจาก “พ่อแม่ด่อน วัดถ้ำเกีย” ว่ากันว่าล.ปศรีทัต ญาณสัมปันโนท่านสำเร็จจนทำเป็นทองเป็นแก้วได้ในตำราเดียวกัน
ปรอทนี้เป็นกายสิทธิ์ กว่าจะฆ่าปรอทได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ศิษย์บางคนทำแล้วปรอทระเบิดใส่ก็มี ,หลอมเป็นน้ำแล้ววิทยาธรมาฉวยไปก็มี,บ้างพอฆ่าได้แล้วคืนตัวเป็นของเหลวหนีเสีย
ท่านทำปรอทขึ้นในสามแบบคือ
๑. ปรอทอิธืฤทธิ์ชุบยา กันภูตผีปีศาจร้าย โดยเฉพาะผียาวาย (ผีกองกอยเผ่าหนึ่ง) ที่มีฤทธิ์ร้ายกาจและดุร้าย ,กันไข้ป่า,คุณไสย,ยาสั่ง พิษปรอทป่า,กันพิษว่าน ,พิษสัตว์ร้าย
๒. ปรอทปัญญา อมในปากอ่านท่องหนังสือได้วันละร้อยพระคาถา กินน้ำจากปรอทไม่ตกถ่อยกว่าคนทั้งหลาย
๓. ปรอทเมตตา เป็นเมตตามหานิยม ค้าขาย ติดต่อการงาน เข้าพบผู้หลักผู้ใหญ่
๔. ปรอทอายุวัฒนะ (ท่านไม่ทำ)
ในระหว่างที่ท่านดำรงชีพอยู่นั้น ประมาณว่าสร้างไม่เกิน ๖๐๐ ชิ้น เป็นที่หวงแหนของเจ้าของนัก เพราะหายากกว่าพระ ทำให้สำเร็จได้ยากมาก ต้องถึงทั้งยาและอาคม,อำนาจจิต
วิธีแยกแยะว่าเป็นปรอทแบบไดก็คือ
๑. ปรอทอิทธิฤทธ์ = ตัน และตอกโค๊ต
๒. ปรอทปัญญา = เจาะรูตรงกลาง
๓. เมตตา = ไม่เจาะรู ไม่ตอกโค๊ต และมีจารหน้าหลัง เป็นจารทางมหานิยม
ถ้ายุคของหลวงปู่จะแบน ประมาณ 1-3 มิล และเก่า แดงเหมือนทองแดงเถื่อนก็มีครับ ปล.แค่หลวงปู่กำหนดจิตอีกขั้นก็กลายเป็นทองคำแล้วครับ แต่หลวงปู่ไม่ทำ เพราะหลวงปู่บอกว่าทองคำอยู่ได้แค่200-300ปีเท่านั้นก็จะเสื่อมสลายไป แต่ทองแดงอยู่ได้นานเป็นพันๆปี
ชิ้นนี้เป็นปรอทปัญญาอาบว่าน ยุคต้นเนื้อจัดเก่า ที่สำคัญหายากมากๆครับ